โดดเดี่ยวในแดนสนธยา
ผู้คนแปลกหน้าต่างหมางเมิน
พบคนเหยียดหยามที่เผชิญ
ต่างคนต่างเดินต่างไม่สนใคร
ฉันมีสุราเป็นเพื่อนแท้
มันเที่ยงแท้และไม่ไปไหน
เมื่อฉันเหนื่อยล้าลงคราใด
ก็มีเพื่อนใจฉันชื่อสุรา
ที่พักอาศัยเพียงหลับนอน
มีเสื่อกับหมอนและจานหนึ่งใบ
ข้าวปลาหนึ่งมื้อพอยาไส้
จึงได้มีแรงออกไปพ่นยา
รับจ้างตากแดดตากลมฝน
กำจัดหญ้ารกออกจากสวน
ยามเย็นฉันก๊งร้องเพลงครวญ
ถึงดอกลำดวนผู้ห่างไกล
ลมโชยสะบัดพัดแต่มาไกล
ผมเอกกะไซไอ้หนุ่มคนจร
จากเหนือสู่ใต้ ด้วยใจอาวรณ์
ไร้ญาติสนิท ไร้มิตรสหาย
ใครๆ ตราหน้าว่าไอ้ขี้เหล้า
ไอ้ที่ผมเมามักมีความหมาย
เพื่อลืมเรื่องราวที่ใจสลาย
ก่อนชีพมลายเป็นผุยผง โอละหนอ
ก่อนชีพมลายเป็นผุยผง โอละหนอ
ในคืนมืดมิดคงมีเพียง
บทเพลงสำเนียงของหนุ่มเมืองเหนือ
ร้องตามถนนบ่นกับรถกับเรือ
ชีวิตที่เหลือฉันจะเมาและร้องเพลง
วลีวาจาใครฟังไม่เข้าใจ
สุราเมรัยคือเพื่อนใจยามราตรี
เมาหลับพับนอนผ่านวันแล้วฝันดี
ถ้ามีโชคดีได้ตื่นมาออกหากิน
ลมโชยสะบัดพัดแต่มาไกล
ผมเอกกะไซไอ้หนุ่มคนจร
จากเหนือสู่ใต้ ด้วยใจอาวรณ์
ไร้ญาติสนิท ไร้มิตรสหาย
ใครๆ ตราหน้าว่าไอ้ขี้เหล้า
ไอ้ที่ผมเมามักมีความหมาย
เพื่อลืมเรื่องราวที่ใจสลาย
ก่อนชีพมลายเป็นผุยผง โอละหนอ
ลมโชยสะบัดพัดแต่มาไกล
ผมเอกกะไซไอ้หนุ่มคนจร
จากเหนือสู่ใต้ ด้วยใจอาวรณ์
ไร้ญาติสนิท ไร้มิตรสหาย
ใครๆ ตราหน้าว่าไอ้ขี้เหล้า
ไอ้ที่ผมเมามักมีความหมาย
เพื่อลืมเรื่องราวที่ใจสลาย
ก่อนชีพมลายเป็นผุยผง โอละหนอ
ก่อนชีพมลายเป็นผุยผง โอละหนอ